ทำความรู้จักกับอาหารสุนัข Prowild® 
ทำไมคนรักสุนัขต้องเลือก Prowild

อาหารสุนัข prowild ดีอย่างไร

พร้อมเทคนิคการเลือกอาหารให้สุนัข

 

สำหรับคนที่รักน้องหมาหรือเป็นทาสหมาอยู่จะทราบกันดีว่า เรื่องอาหารการกิน ความเป็นอยู่ ข้าวของเครื่องใช้ของเจ้าสัตว์สี่เท้าผู้ซื่อสัตย์นี้ เป็นอะไรที่ยอมไม่ได้ ฉันอดข้าวได้ แต่น้องหมาของฉันต้องอิ่มและต้องได้กินแต่ของดี ๆ

แต่ก็ยังมีของเจ้าของสุนัขอีกหลายคนที่อาจจะยังไม่ได้ศึกษาหาข้อมูลมากพอ และมักจะคิดว่าสุนัขน่าจะรับประทานได้ทุกอย่างเฉกเช่นมนุษย์เรา บ้างก็คิดว่า อาหารสุนัขธรรมดา หรือ อาหารสุนัขพรีเมี่ยม มันก็ไม่ต่างอะไรกันหรอก ความคิดหรือความเชื่อนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและถือว่าเป็นเรื่องที่เจ้าของควรเร่งทำความเข้าใจในอาหารของสุนัขเสียใหม่ ก่อนที่เราจะไปดูวิธีในการเลือกซื้ออาหารให้สุนัขว่าควรคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง เราไปเรียนรู้ว่ามีอาหารประเภทใดบ้างที่มีประโยชน์เป็น Superfood ที่สุนัขควรกิน และอะไรบ้างที่ควรห้ามอย่างเด็ดขาด

 



Superfoods ของสุนัขมีอะไรบ้าง

Superfoods คือกลุ่มของอาหารที่มีประโยชน์สูงและอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ Superfoods ที่ดีสำหรับสุนัข อาทิ


  • ไข่ไก่
    ไม่ว่าจะสุนัขหรือแมว ไข่ไก่จัดว่าเป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่ายมากที่สุด ในไข่ไก่จะเต็มไปด้วยกรดอะมิโนหลายชนิด มีวิตามินและสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา สมองและหัวใจ และการให้สุนัขกินไข่ไก่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดข้ออักเสบในสัตว์สูงวัยอีกด้วย แต่เราขอแนะนำว่าควรให้น้อง ๆ กินไข่ที่สุกแล้วเท่านั้น เพราะไข่ดิบอาจมีแบคทีเรียหรือสารเคมีปนเปื้อนซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของสุนัข




  • เนื้อไก่
    เนื้อไก่อุดมไปด้วยโปรตีนที่มีคุณภาพ  ในเนื้อไก่จะมีทั้งวิตามิน บี และ ดี รวมไปถึงแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง




  • เนื้อปลา
    ถ้าเอ่ยว่าปลาทุกคนคงจะคิดถึงแซลมอน แต่จริง ๆ ยังมีปลาอีกหลายชนิดที่สุนัขสามารถกินได้และมีประโยชน์ เช่น ปลาโบนิโต ปลาซาร์ดีน และรวมไปถึงปลาเนื้อขาวอื่น ๆ ในปลาจะมีโปรตีนอยู่สูงมาก มีโอเมก้า 3 และวิตามินอีกมากมาย เช่น บี 6 และ บี12 ที่ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท ยิ่งหากให้สุนัขที่บ้านรับประทานปลาจากน้ำทะเลลึก จะช่วยบำรุงผิวหนังและทำให้ขนสุนัขสวยงาม ส่วนโอเมก้า 3 นั้น มีส่วนช่วยเสริมเรื่องการมองเห็นและบำรุงสายตาอีกด้วย


  • เบอร์รี่ทั้งหลาย
    ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ โกจิเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี่ ผลไม้เหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง และยังมีวิตามิน ซี และ เอ ที่ช่วยบำรุงสายตา บลูเบอร์รี่สำหรับสุนัขยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังและมะเร็งได้



  • ฟักทอง
    ฟักทองจัดเป็นอาหารชั้นเยี่ยมสำหรับสุนัข เพราะมีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยป้องกันโรคหัวใจและบำรุงสุขภาพดวงตา แถมในฟักทองย้งอุดมไปด้วยวิตามิน เค ที่ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็ง และช่วยลดนิ่วในไต และโรคข้ออักเสบได้อีกด้วย




  • แครอท
    คุณอาจจะเคยเห็นบางบ้านหั่นแครอทเป็นชิ้น ๆ ไว้ ให้สุนัขกินเล่นแทนขนมหมา ในแครอทอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน โพแทสเซียม วิตามิน เอ รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ช่วยบำรุงสุขภาพขนและผิวหนัง

เมื่อได้ทราบถึงอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุนัขไปแล้ว เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ ห้าม! สุนัขรับประทานเด็ดขาด

 



อาหารที่ควรห้ามให้สุนัขรับประทาน

  • กระดูกชิ้น: กระดูกชิ้น ๆ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงของการแตกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อลำคอหรือเสียงเข้าสู่ระบบย่อยของสุนัข
  • อัลมอนด์: อัลมอนด์มีสารที่เรียกว่าแอลกอฮอล์ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุนัขและอาจทำให้เกิดอาการโคม่าได้
  • นมวัวหรือผลิตภัณฑ์จากนมวัว: สารประกอบในนมวัว เช่น แลคโตส์ อาจทำให้เกิดปัญหาในการย่อยสลายหรือท้องระคายเคืองได้
  • ช็อคโกแลต: ช็อกโกแลตมีสารที่เรียกว่า theobromine ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย และแพ้ท้อง และหากสุนัขได้รับปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงได้
  • หัวหอมและกระเทียม: มีสารที่เรียกว่า thiosulfate ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด, อาเจียน, และปัญหาที่เกี่ยวกับเลือดได้
  • องุ่นและลูกเกด: มีสารพิษสำหรับสุนัขที่เรียกว่าเหล้าไอซีโซไอซีโอไซเยต ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย, อาเจียน, อาการปวดท้อง, และอาการทรุดโทรมได้
  • ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน: มีผลเสียต่อสุขภาพของสุนัขได้ เช่น อาเจียน, ท้องเสีย, อ่อนเพลีย มีผลกระทบต่อระบบหัวใจและระบบประสาทของสุนัข
  • เกลือ: การรับประทานเกลือมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตในสุนัข เพราะการให้เกลือมากเกินไปอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในร่างกายเพิ่มขึ้น
  • ขนมปัง: เนื่องจากขนมปังมักมีส่วนประกอบที่ไม่เหมาะสมสำหรับสุนัข อาทิ แป้ง น้ำตาล เกลือ และสารกันบูด อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือปัญหาในทางเดินอาหารของสุนัข


 

เทคนิคดี ๆ ในการเลือกอาหารให้สุนัข

เพราะอาหารที่ดีจะทำให้สุนัขมีความสุข และสุขภาพแข็งแรง แต่จะเลือกซื้อแบบไหนดีเพราะอาหารสุนัขตามท้องตลาดบ้านเรามีขายกันเยอะมาก หลากหลายยี่ห้อ มีทั้งแบบเม็ด แบบอาหารเปียก แบบบาร์ฟ แล้วแบบไหนกันนะที่จะเหมาะกับน้องหมาของเรา ลองนำปัจจัยเหล่านี้ไปประกอบการตัดสินใจของคุณดู

  1. ควรเลือกอาหารให้เหมาะกับแต่ละช่วงวัย
    ทราบหรือไม่ว่า การให้อาหารสุนัขเกินความพอดี อาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าการได้รับสุขภาพที่ดี เพราะสุนัขที่อายุแตกต่างกันสารอาหารที่ควรได้รับก็จะผกผันตามอายุของสุนัขด้วย โดยในที่นี้ เราจะแบ่งช่วงอายุของสุนัขออกเป็น 4 ช่วงเพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้ออาหาร
    • ช่วงที่ 1
      ช่วงที่กำลังเป็นลูกสุนัขที่เพิ่งเกิดมาได้เพียง 4 สัปดาห์ ลูกสุนัขช่วงนี้ควรให้รับประทานนมสุนัขที่มีความข้นและสีออกเหลืองในช่วง 3 วันแรก หลังจาก 3 วันแล้ว ให้น้ำนมสุนัขได้ตามปกติ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ลูกสุนัขได้รับสารอาหารได้มากที่สุด และสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้น


    • ช่วงที่ 2 
      เป็นช่วงสุนัขที่กำลังโตหรืออายุประมาณ 1-6 เดือน ที่ผ่านการหย่านมเรียบร้อยแล้ว สุนัขในช่วงวัยกำลังโตนี้ ต้องการอาหารที่มีพลังงานสูงและนมสำหรับสุนัข เพราะช่วงวัยนี้สุนัขจะโตเร็วมาก โดยคุณอาจแบ่งการให้อาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ และอาจเสริมวิตามินอีและบีไปให้ด้วย (ถ้ามีงบพอ)


    • ช่วงที่ 3
      ถ้าเปรียบเป็นคนก็คือช่วงเป็นวัยรุ่นเป็นหนุ่มเต็มตัว จะมีอายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป ช่วงวัยนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารมากเท่า 2 ช่วงแรก แต่ก็ควรเลือกอาหารสุนัขที่มีสารอาหารมากเพียงพอ และให้ในปริมาณที่เหมาะสมกับพฤติกรรม เช่น หากเป็นสุนัขที่ใช้พลังงานเยอะ การให้อาหารปริมาณอาจจะมากกว่าสุนัขที่ไม่ชอบใช้พลังงาน เป็นต้น


    • ช่วงที่ 4
      เป็นช่วงที่สุนัขเริ่มมีอายุมาก คือช่วงวัย 6-8 ปี สำหรับอาหารที่เหมาะกับสุนัข ในช่วงวัยนี้ควรเป็นอาหารที่มีไฟเบอร์สูง มีสารอาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟักทอง และมีสัดส่วนของแคลอรี่กับไขมันที่น้อย


  2. ควรเลือกประเภทอาหารของสุนัข
    ประเภทของอาหารสุนัขมีหลายเกรดและหลายประเภท มีทั้งอาหารสุนัขเกรดพรีเมี่ยม อาหารสุนัขเกรดธรรมดา ตลอดไปจนอาหารสุนัขแบ่งขายตามตลาดทั่วไป ส่วนรูปแบบของอาหารสุนัขแบ่งออกได้เป็น 4 แบบ ดังนี้ 
    • อาหารสุนัขแบบแห้ง
      หรืออาหารเม็ด ข้อดีก็คือ มีสารอาหารอยู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อสุขภาพของสุนัข เก็บได้นาน


    • อาหารสุนัขแบบเปียก
      ที่มีในรูปแบบกระป๋อง ส่วนใหญ่สุนัขจะชอบรับประทานอาหารแบบเปียก มีข้อเสียตรงที่ สารอาหารในอาหารประเภทนี้อาจจะน้อย และไม่สามารถเก็บได้นานเท่าอาหารเม็ด


    • อาหารสุนัขกึ่งเปียก
      อาหารสุนัขประเภทนี้จะมีสารอาหารปริมาณมากกว่าอาหารแบบเปียก แต่ไม่สามารถเก็บไว้ได้นานเช่นเดียวกับอาหารเปียก


    • อาหารสุนัขแบบบาร์ฟ
      อาหารประเภทนี้เริ่มได้รับความนิยมในปัจจุบัน คอนเซ็ปต์ของอาหารบาร์ฟคือ ให้อาหารเสมือนธรรมชาติของสัตว์ที่ออกหากิน แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่เช่นกัน คือ หากเจ้าของจะเปลี่ยนมาให้อาหารบาร์ฟแล้ว ควรต้องศึกษาให้ดีว่าสุนัขแต่ละสายพันธุ์เหมาะกับอาหารประเภทนี้หรือไม่ และต้องศึกษาเรื่องโภชนาการให้ดี พร้อมกับต้องเลือกวัตถุดิบที่ดีอีกด้วย


  3. ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพสุนัข
    จริงอยู่ที่ว่า สุนัขเป็นสัตว์ที่กินได้ทั้งพืชผักและเนื้อสัตว์ แต่มันก็มีข้อจำกัดอยู่ว่าไม่สามารถรับประทานได้ทุกชนิดเหมือนกับคน เช่น 
    ควรเลือกซื้ออาหารสุนัขที่มีความน่าเชื่อถือ
    โดยดูได้จากตรารับประกันมาตรฐานการผลิต เพราะสิ่งนี้จะบอกได้ถึงคุณภาพของอาหารสุนัข ให้สังเกตที่เลขทะเบียนอาหารสัตว์ วันที่ผลิต และวันที่หมดอายุ                                                       
    1. อาหารที่มีรสเค็ม
      อาหารเค็มจะส่งผลต่อไตของสุนัข เช่น ขนมขบเคี้ยวของเจ้าของ ที่ไม่ควรให้น้องหมารับประทานอย่างยิ่ง


    2. นมวัวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัว
      เพราะร่างกายของสุนัขไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสได้ จะสังเกตได้ว่า หากใครเคยให้นมวัวกับสุนัข น้อง ๆ จะท้องเสีย นั่นคืออาการที่ไม่ย่อยแลคโตส หากอยากให้สุนัขกินนมควรหาซื้อนมสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ


    3. ช็อคโกแลต
      เพราะมีส่วนผสมของคาเฟอีนและธีโอโบรมีน จะทำให้สุนัขหัวใจเต้นเร็วหรือใจสั่นได้


    4. กระดูก
      ไม่ว่าจะกระดูกไก่ หรือกระดูกหมู ยิ่งเป็นกระดูกที่ต้มสุกด้วยแล้ว ไม่ควรให้สุนัขรับประทานอย่างยิ่ง เพราะกระดูกเหล่านี้จะไปทิ่มแทงอวัยวะภายในของสุนัข ทำให้สุนัขท้องเสีย อาเจียน หรือเลือดออกทางทวารหนัก


  4. ควรอ่านสลากข้างกล่องหรือถุงของอาหารแต่ละยี่ห้อ
    เพราะอาหารสุนัขแต่ละสูตร จะมีส่วนผสมของสารอาหารที่แตกต่างกันออกไป เช่น สูตรเน้นความแข็งแรงของกระดูก สูตรเพิ่มความเงางามของขน หรือสูตรสำหรับสุนัขที่มีโรคประจำตัว โดยให้ยึดหลักการเลือกส่วนผสมให้ครบถ้วนดังต่อไปนี้ น้ำ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุ

  5. ควรพิถีพิถันในการเลือกอาหารให้กับสุนัข
    อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าสำหรับคนรักสุนัขแล้ว ส่วนใหญ่เจ้าของมักจะเลือกซื้อของที่ดีให้กับน้องหมาของตัวเอง ฉะนั้น การเลือกซื้ออาหารก็เช่นกัน ควรนำปัจจัยที่ได้กล่าวมาทั้งหมดมาพิจารณาการเลือกซื้ออาหารให้น้อง ๆ ไม่ควรตามใจสุนัข และควรให้อาหารเป็นเวลา เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องหมาที่รักของคุณเอง



สนใจสอบถาม อาหารสุนัข prowild อาหารสุนัขเกรดพรีเมี่ยม สั่งซื้อสินค้า
Prowild วางจำหน่ายที่ร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำทั่วประเทศ

TEL: 056-410765064-931-5020
Facebook: https://www.facebook.com/Prowildofficial
Email: prowild@onthanikaintertrading.co.th
Website: http://www.onthanikaintertrading.com


 
 

Visitors: 1,509,529